นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทย าศาสตร์การแพทย์ เปิ ดเผย
งานวิจัยของการฉี ดวั ค ซีนแบบสลับ (Mix and Match)
จากการตรวจภูมิคุ้มกันแบบภาพรวม รวมถึงการฉี ดกระตุ้นเข็ม 3 แบบ heterologous prime-boost
ซึ่งร่วมกับศิริ รา ชพย าบ าล โดยใช้ไ ว รั ส ส า ย พั น ธุ์จริงที่กำลัง ร ะ บ า ดในประเทศไทย
คือ สายพันธุ์เดลต า หรือสายพันธุ์อินเดี ย (B.1.617.2) ทำการทดสอบโดยวิธีมาตรฐานที่ยอมรับกันทั่วไป
คือวิธี Plaque Reduction Neutralization Test (PRNT)
ซึ่งต้องปฏิบัติในห้องชีวนิรภัยระดั บ 3 เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อหาค่ าที่ไ วรั สสายพันธุ์เดลต าถูกทำล าย 50%
(Neutralizing Titer 50%, NT50) โดยแอนติบอดีที่เ กิดขึ้นหลังฉี ดวั คซี น พบว่าระดั บภูมิคุ้มกันในกลุ่มต่างๆ
หลังการได้รับวั คซี นครบโดส 2 สัปด าห์ ต่อเ ชื้ อไ ว รั ส cv-19 สายพันธุ์เดลต า
มีค่ าเฉลี่ยระดั บภูมิคุ้มกันที่สามารถลบล้ างฤทธิ์ไ ว รั ส (ดังแสดงในแผนภูมิด้านบน) พบว่า
การให้วั คซี นสลั บแบบ ซิโนแวค + แอสตร้ าเซเนก้า (SV+AZ) มีภูมิคุ้มกันสูงกว่าการให้วั คซี น
ซิโนแวค 2 เข็ม (SV+SV) และเทียบเท่ากับการให้ แอสตร้ าเซเนก้า 2 เข็ม (AZ+AZ)แต่ใช้เวล าสั้นลง
ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้ฉี ด แอสตร้ าเซเนก้า เข็มแรกและตามด้วย ซิโนแวค c (AZ+SV)
ส่วนการกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วย แอสตร้ าเซเนก้า คือ 2 เข็มแรกเป็นซิโนแวค (SV+SV+AZ)
สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพิ่มมากขึ้นถึง 11 เท่า
ในขณะที่กระตุ้นเข็ม 3 ด้วยซิโนฟาร์ม (SV+SV+Sinopharm) ที่เป็นวั คซี นเชื้อต ายเหมือนกัน ให้ภูมิคุ้มกัน
มาต่อกันที่ระดั บภูมิคุ้มกัน
จากการที่ได้ติดตามผู้ได้รับวั คซี น ทำการศึกษาผู้ที่ได้รับวั คซี นซิโนแวค3 สัปดาห์
โดยได้รับเข็มสองเป็นแอสตร้ าเซเนก้า ทั้งหมด 125 ร าย (ชาย 61 หญิง 64 อายุเฉลี่ย 40 (18-60 ปี)
พบว่าระดั บภูมิคุ้มกัน Quantitative Anti-S RBD
ซิโนแวค + แอสตร้ าเซเนก้า เฉลี่ยที่ 716(399-1127)
ซิโนแวค + ซิโนแวคเฉลี่ยที่ 117 (58-204)
แอสตร้ าเซเนก้า + แอสตร้ าเซเนก้า เฉลี่ยที่207 (123-338)
ส่วนผลข้างเคียง ภายหลังการฉี ดวั คซี นสลับ เข็ม 2 พบ
มีไข้ ร้อยละ 66
ปวดศีรษะ ร้อยละ 33
อ่อนเพลีย ไม่มีแร ง ง่วงซึม ร้อยละ 28
ใกล้เคียงกับอาการจากการฉี ด แอสตร้ าเซเนก้า 2 เข็ม เป็นการศึกษาที่สนับสนุนมติของคณะก รรมการโรคติดต่อแห่งชาติ
และกระทรวงสาธารณสุขกำลังติดตามประสิ ทธิผลของการฉี ดวั คซี นสูตรนี้อย่ างใกล้ชิด
อ ย่ างไรก็ตาม ผลการศึกษานี้ทำการศึกษาในอาสาสมั คร 6 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ที่ได้รับวั คซี น CoronaVac 2 เข็ม (SV+SV)
กลุ่มที่ 2 ได้รับ วั คซี น AstraZeneca 2 เข็ม (AZ+AZ)
กลุ่มที่ 3 ได้รับ วั คซี น CoronaVac และตามด้วย AstraZeneca (SV+AZ)
กลุ่มที่ 4 ได้รับ วั ค ซีน AstraZeneca และตามด้วย CoronaVac (AZ+SV)
กลุ่มที่ 5 ได้รับ วั ค ซีน CoronaVac 2 เข็มและตามด้วย Covilo 1 เข็ม (SV+SV+Sinopharm)
กลุ่มที่ 6 ได้รับ วั คซี น CoronaVac 2 เข็มและตามด้วย AstraZeneca 1 เข็ม (SV+SV+AZ)